สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ:

ในยุคหนึ่ง อันทเวิร์ปเป็นที่รวมตัวของเหล่าศิลปินและนักศึกษาศิลปะทั้งหลาย ด้วยอิทธิพลจากช่างศิลป์ผู้ยิ่งใหญ่ของยุคศตวรรษที่ 17 นอกเหนือจาก วิหารพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ (Cathedral of Our Lady) ที่มีหอคอยสูงเด่นสะดุดตาที่สุดแล้ว ในปัจจุบัน มีชื่อเสียงหนึ่งที่สร้างเสน่ห์ให้แก่อันทเวิร์ป คือ เป็นสวรรค์ของขาช็อป แม้แต่กับคนที่มัธยัสถ์ที่สุด ก็ยังสามารถเพลิดเพลินจนลืมเวลาไปกับร้านรวงต่าง ๆ รอบ ๆ จตุรัสตลาดเมืองอันทเวิร์ป (Antwerp Market Square หรือ Grote Markt) นอกจากนั้นแล้ว.อันทเวิร์ปยังฉลาดในการสร้างเสน่ห์เพิ่มเติมอีกด้วยศิลปะสมัยใหม่ มีการใช้ภาพการ์ตูนสร้างทัศนียภาพที่น่าสนใจบนกำแพงในเมืองตามมุมต่าง ๆ และอาจไปเจอรูปปั้นหุ่น ‘ผู้รู้เมืองอันทเวิร์ป’ (Antwerp Whisperer) โผล่ในที่ม้านั่งกลางเมือง หรือเกาะเสาไฟฟ้า หรือกระทั่งปีนหลังคาตึก ลองให้เวลาตัวเองได้เดินหลงทางไปในถนนสายย่อยต่าง ๆ ดู เมืองนี้มีเส้นทางลับน่าค้นหาอีกมากมาย

วิหารพระแม่ศักดิ์สิทธิ์

เป็นวิหารประจำเมืองที่มีหอระฆังโดดเด่นสูงเสียดฟ้า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมองไม่เห็น ไม่ว่าจะถ่ายรูปจากมุมใดของเมือง โบสถ์ทรงโกธิคนี้ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่มีความสูงที่สุดในเบลเยี่ยม คือประมาณ 123 เมตร ภายในเต็มไปด้วยผลงานศิลปะชั้นเยี่ยมละลานตา หนึ่งในนั้นคือ ผลงานภาพวาดของ รูเบน ศิลปินที่เลื่องชื่อในด้านผลงานสไตล์บาโรค และเป็นศิลปินประจำเมืองอันทเวิร์ปด้วย

จตุรัสตลาดเมืองอันทเวิร์ป

เป็นเขตที่มีความคึกคักมากที่สุดของเมือง กิจกรรมที่เป็นที่นิยมทำกันมากที่สุดของผู้มาเยือนจตุรัสกลางเมืองแห่งนี้คือ เดินช็อปปิ้งเข้าออกร้านรวงที่ตั้งอยู่ในตึกยุคศตวรรษที่ 16 เหล่านี้ แม้จะเป็นการจำลองแบบมาก็ตาม (เนื่องจากของเดิมส่วนใหญ่ถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลก) หรือ นั่งคาเฟ่ริมทางเดิน จิบเครื่องดื่มชอกโกแลตเบลเยี่ยมร้อน หรือ เบียร์แบบเบลเยี่ยมขนานแท้ ใช้เวลาสโลว์ไลฟ์ หากมาเยือนในช่วงเดือน ธ.ค. จตุรัสแห่งนี้จะเต็มไปด้วยร้านค้าขายของประดับและของขวัญคริสต์มาส เป็นช่วงที่มีสีสรรมากที่สุดช่วงหนึ่งของปีเลยทีเดียว ส่วนช่วงเดือน เม.ย. - ต.ค. มีบริการรถม้าสำหรับพาชมรอบเมือง

บ้านของรูเบนส์

ศิลปินแห่งศตวรรษที่ 15-16 “ปีเตอร์ พอล รูเบนส์” ได้สร้างชื่อให้กับเมืองอันทเวิร์ปจนได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีโรงเรียนศิลปะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ผลงานของเขามีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ได้รับการยอมรับจากกษัตริย์แห่งสเปนและอังกฤษ ผลงานส่วนใหญ่จะเป็นภาพประวัติศาสตร์และเรื่องราวทางศาสนา ในปีหนึ่ง ๆ นักท่องเที่ยวมากมายตั้งใจมาเยือนอันทเวิร์ปโดยเฉถาะเพื่อได้มาชมผลงานและบ้านของเขา

ปราสาทสตีน

ชื่อของปราสาทแปลได้ตรงตัวว่า “หิน” เดิมเป็นหนึ่งในป้อมปราการของเมืองอันทเวิร์ปตั้งแต่สมัยที่เมืองยังคงมีความสำคัญเป็นเพียงเมืองหน้าด่าน สร้างขึ้นภายหลังการรุกรานของพวกไวกิ้งส์ เพื่อเป็นจุดการคุมเรือที่เข้าออกแม่น้ำเช้ท (Scheldt) แม่น้ำสายสำคัญของเมือง ปราสาทสตีนเป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่เก่าแก่ที่สุดและเคยเป็นศูนย์กลางของเมือง เคยเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับการเดินเรือ ซึ่งปัจจุบันโบราณวัตถุเหล่านี้ถูกย้ายไปยังพิพิธภัณฑ์อันเดอสตรูมที่สร้างใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายใน สัมผัสกับบรรยากาศของยุโรปยุคกลาง และยังคงมีรูปแกะสลักของเทพเจ้าเผ่าไวกิ้งรักษาไว้ให้ได้เห็น

พิพิธภัณฑ์อัน เดอ สตรูม

เป็นสิ่งปลูกสร้างคู่เมืองอันทเวิร์ปที่เด่นสง่าและใหม่ที่สุด สร้างขึ้นในปี 1998 และเปิดให้เข้าชมในปี 2011 ชื่อพิพิธภัณฑ์แปลได้ตรงตัวตามทำเลที่ตั้ง คือ พิพิธภัณฑ์ริมแม่น้ำ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเช้ท เป็นการรวมรวมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเข้ามาไว้ภายในที่เดียวกัน ภายใต้แนวคิด “อันทเวิร์ปคือโลก” ภายในเก็บรักษางานโบราณวัตถุกว่า 470,000 ชิ้น ผู้มาเยือนสามารถขึ้นไปบนจุดสูงสุดของอาคารเพื่อชมวิวเมืองอันทเวิร์ปจากปากแม่น้ำเช้ท และยังเป็นอีกหนึ่งจุดปิคนิคของชาวเมืองที่สามารถนำอาหารมาจากบ้านเอง หรือเลือกจากร้านอาหารและคาเฟ่ภายในอาคาร

เขตย่านค้าเพชรอันทเวิร์ป

ตั้งอยู่อีกด้านจากสถานทีรถไฟหลักของอันทเวิร์ป คุณจะได้เห็นร้านค้าเพชรเรียงรายกันอยู่มากมาย ประมาณกว่า 80% ของเพชรดิบที่ยังไม่ผ่านการเจียรจะต้องผ่านในเขตนี้ มีร้านค้าและร้านเจียรเพชรกว่า 380 ร้านที่ส่งงานให้กว่า 1,500 บริษัท มีกระทั่งธนาคารเพชรโดยเฉพาะ อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งศูนยกลางการค้าเพชรที่สำคัญที่สุดระดับโลก ในเขตนี้แต่เดิมถูกครอบครองด้วยชาวยิวเป็นหลัก ปัจจุบันย่านนี้เต็มไปด้วยชาวยิว, ชาวอินเดีย, ชาวเลบานอน และชาวอาเมเนีย มีพิพิธภัณฑ์เพชรให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมประวัติศาสตร์การเติบโตของชุมชนและผลงานชี้นเลิศที่ยังคงเก็บรักษาไว้ ภายในสิ้นปี 2017 จะมีการเปิดพิพิธภัณฑ์เพชรใหม่ที่เรียกว่า ‘ดีว่า’ (Diva) ให้เข้าชม ในช่วงฤดูร้อน จะยังได้เห็นชิงช้าสวรรค์แบบเคลื่อนที่ได้ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น