สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ:

ทันทีที่คุณได้ก้าวเข้ามาสู่เขตเมืองเก่าของบรู๊ช อย่าประหลาดใจที่คุณจะรู้สึกเหมือนได้ข้ามผ่านมิติเวลากลับสูหลายร้อยปีก่อน ในสมัยที่กลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ความรุ่งเรืองของเมือง ยังคงหลงเหลืออวลอยู่ในบรรยากาศ อยู่ในอิฐทุกบล็อคที่ได้เหยียบย่าง เสมือนเราได้ข้ามเวลาไปสัมผัสว่าเมืองบรู็ชมีชีวิตแบบใดเมื่อในศตวรรษที่ 12 - 15 ความสมบูรณ์ของมรดกทางประวัติศาสตร์อย่างดีนี้เอง ที่ทำให้บรู็ชได้รับการรับรองอย่างง่ายดายจากยูเนสโก ให้เป็นเมืองทั้งเมืองได้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000 หาใช่แค่โบสถ์เลือดศักดิ์สิทธิ์ หรือ หอระฆังประจำเมืองเท่านั้น นอกจากความสมบูรณ์แบบของความเป็นเมืองเก่าในยุคกลาง บรู็ชยังรักที่จะให้ผู้คนได้ชื่นชมการใช้ชีวิตอย่างเต็มอรรถรส หลักฐานเห็นได้จากการบำรุงโรงหมักเบียร์เบลเยี่ยมแบบฉบับท้องถิ่น หรือการให้ความสำคัญกับพิพิธภัณฑ์เบียร์, ช็อกโกแลต, หรือกระทั่งพิพิธภัณฑ์ของมันฝรั่งทอดแบบเบลเยี่ยม

จตุรัสกลางเมือง

เป็นจุดที่เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมากของเมือง เพราะใจกลางเมืองบรู็ชทั้งเมืองถือเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ดังนั้น ที่นึ่จึงเป็นจุดแรกที่ควรเริ่มชมหรือจะเลือกเป็นจุดสุดท้ายที่จะถ่ายภาพความประทับใจไว้ก็ได้ ณ จุดนี้จะได้เห็นหอระฆังและศาลประจำเมืองที่นี่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งร้านขายของที่ระลึกน่ารักและคาเฟ่เก๋ ๆ ให้คุณได้จิบช็อกโกแลตร้อน ๆ กับวาฟเฟิลเบลเยี่ยมด้วย

หอระฆัง

หากหัวเข่าของคุณยังรับใช้คุณดีอยู่ อย่าพลาดที่จะเดินขึ้นไป 366 ขั้น สู่จุดที่สูงที่สุดกว่า 83 เมตร คุณจะได้เห็นวิวของเมืองทั้งเมือง แม้ในวันที่อากาสอาจไม่เป็นใจ ภายในหอคอยมีระฆังมากถึง 47 ใบที่น่าชม

โบสถ์เลือดศักดิ์สิทธิ์

โบสถ์ขนาดกลางสร้างในศตวรรษที่ 12 แห่งนี้ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่แห่งของโลกที่เก็บรักษาผ้ารองเลือดของพระเยซูภายหลังจากที่ท่านถูกตรึงกางเขน ทุกปีในวันฉลองการเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซู (40วันหลังจากถูกตรึงกางเขน) จะมีผู้จาริกแสวงบุญกว่า 50,000 คนมาร่วมพิธีเฉลิมฉลองซึ่งจะมีการแห่ผ้ารองเลือดในแท่นบูชาทองคำประดับด้วยอัญมณีต่าง ๆ หน้กกว่า 30 ก.ก. ไปรอบตัวเมือง

สวนน้ำมินเนอร์

อยู่ทางเขตตอนใต้ของตัวเมืองบรู็ช ภายในมีทะเลสาปขนาดเล็กชื่อเดียวกับสวน ทว่ามีอีกชื่อเรียกกันว่า “ทะเลสาปแห่งรัก” เพราะเรื่องเล่าของความรักอันแสนเศร้าของ ‘มินน่า’ และคนรักของเธอ ว่ากันว่า คู่รักที่เดินจูงมือกันข้ามสะพานที่ทะเลสาปแห่งนี้จะได้อยู่คู่กันตลอดไป

ล่องเรือในคลองเมืองบรู็ช

เขาว่าหากคุณไม่มีโอกาสล่องเรือในคลองของ “เวนิสแห่งตอนเหนือ” นี้ ก็เหมือนมาไม่ถึงบรู็ช ลองใช้เวลาสัก 30 นาทีชื่นชมสองฟากฝั่งเมือง ขณะที่ล่องไปตามลำคลองของบรู็ชดู แต่เรือจะให้บริการเฉพาะเดือนมี.ค. ถึง กลางเดือน พ.ย. เท่านั้น

ถนนริมท่าเรือโรเซนฮู้ดไค

เป็นจุดที่นิยมถ่ายรูปกันมากที่สุดจุดหนึ่งในเมืองบรู็ช เดิมทีเคยได้ชื่อว่าเป็น ท่า’ดอกเกลือ’ คาดว่าเนื่องจากเคยเป็นจุดขนถ่ายสินค้าเกลือกันมาก่อน

พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ในเมืองบรู็ช

ชาวเบลเยี่ยม นิยมการใช้วันหยุดอันมีค่าไปกับพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ จึงไม่แปลกที่บรู็ชจะมีพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เลือกเข้าขมมากมาย ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์’เกรอนิงเกอร์ (Groeninger)’ที่จัดแสดงงานแสดงศิลปะร่วม 7 ศตวรรษของเมืองที่ผ่านมา , หรือพิพิธภัณฑ์ชอกโกแลตที่จัดแสดงชอกโกแลตในรูปแบบต่าง ๆ หรือกระทั่งพิพิธภัณฑ์มันฝรั่งทอด (Friet Museum) ที่เป็นที่เดียวในการแสดงวิวัฒนาการของอาหารกินเล่นจานนี้ที่โด่งดังนักหนาของเบลเยี่ยม