สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและกิจกรรมในรีโอเดจาเนโร:

นครริโอ เดอ จาเนโรแห่งนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่มาก แบ่งออกเป็นหกเขต เพียงสองในหกเท่านั้นที่เป็นที่แนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ยังมีแผนการพัฒนาอีกมากสำหรับเมืองเจ้าภาพงานฟุตบอลโลกเมื่อปี 2014 และโอลิมปิกปี 2016 สถานที่ท่องเที่ยวผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก ที่เป็นไฮไลท์สำหรับผู้มาเยือนใหม่จะมี

รูปปั้นพระคริสต์ผู้ไถ่บาป

(Christ the Redeemer) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกแห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาของชาวบราซิลต่อศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิก สิ่งที่ทำให้คนนึกถึงและอยากมาเยือนเมืองริโอ เดอ จาเนโรนักหนาคือการได้สัมผัสรูปปั้นนี้ และที่ตระการตาไม่แพ้กัน คือวิว 360 องศาจากยอดเขา ด้านหนึ่งคือริโอทั้งเมืองจรดเกาะและทะเล อีกด้านหนึ่งคือ ฝืนพรมสีเขียวสดกว้างไกล รูปปั้นพระคริสต์ตั้งอยู่บนยอดเขาคอร์โควาโด (Corcovado แปลว่า เขาหลังค่อม) สูง 710 ม. ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทีชูคา (Tijuca) การขึ้นชมทำได้สองทาง คือ ขึ้นรถไฟไต่หน้าผาชันขึ้นไป หรือ เลือกขึ้นรถเมล์สายเฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้เข้าเขตอุทยานได้

หาดโคปาคาบานา

(Copacabana Beach) สำหรับแฟนเพลงอเมริกัน อาจจะเคยได้ยินเพลงชื่อเดียวกันนี้ ทว่าน่าเสียดายที่เพลงของแบรี่ มานิโลว์นี้ พูดถึงฮาวาน่า แทนที่จะเป็นในริโอ กระนั้นก็ตาม ทำให้หาดโคปาคาบาน่าแห่งนี้ เป็นที่คุ้นหูของนักท่องเที่ยวต่างประเทศมากมาย นี่เป็นหนึ่งในสองหาดชั้นนำของนครริโอ เดอ จาเนโร หาดนี้เป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความขาวสะอาดของหาดทราย และสีเขียวครามของน้ำทะเล ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดของโลก ตลอดความยาว 4 ก.ม. มีการจัดทางเดินสวยงามไว้เป็นสัดส่วน ในช่วงฉลองปีใหม่ คนกว่า 2 ล้านคนจะมาชมพลุฉลองปีใหม่ตระการตาของริโอที่นี่

หาดอิปาเนมา

(Ipanema Beach) หาดนี้อีกเช่นกัน เป็นที่รู้จักโด่งดังมาจากเพลงที่ชื่อ “สาวจากอิปาเนมา” หาดนี้และหาดโคปาคาบานา เป็นสองหาดที่มีโรงแรมและรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักพักกัน ทั้งสองหาดจัดเป็นย่านที่อาศัยชั้นดีที่สุดของนครริโอ เดอ จาเนโรนี้ด้วย เรื่องความงดงามของหาดทราย และทะเลนั้นต่างไม่เป็นสองรองจากกัน หาดอิปาเนมานั้นนอกจากได้ชื่อว่าเป็นหาดที่เซ็กซี่ที่สุดแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งรวมศิลปินสุดฮิป เพราะมีจัดตลาดนัดฮิปปี้ทุก ๆ วันอาทิตย์ (Ipanema Hippie Fair)

ขึ้นกระเช้าชมวิวที่ภูเขาชูการ์โลฟ หรือ ภูเขาแท่งน้ำตาล

(Sugar Loaf Mountain หรือ Pão de Açúcar) ได้ชื่อว่าภูเขาแท่งน้ำตาล เพราะลักษณะภูเขาที่คล้ายแท่งน้ำตาล ซึ่งเป็นผลผลิตจากอ้อยที่เป็นสินค้าส่งออกของบราซิลในช่วงศตวรรษที่ 19 ในสมัยนั้นนิยมส่งออกน้ำตาลสกัดให้เป็นแท่งก่อนที่จะมีการแปรรูปไปเป็นน้ำตาลทรายและน้ำตาลก้อน ภูเขานี้ตั้งอยู่ที่ปากอ่าวกวนนาบารา (Guanabara Bay) ความสูงที่เกือบสี่ร้อยเมตร ที่ยอดเขานี้จัดเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดถ้าอยากเห็นว่านครริโอ เดอ จาเนโรทั้งนครนั้นงดงามเพียงใด การขึ้นสู่ยอดเขาต้องขึ้นกระเช้าไปสองต่อ

วิหารนักบุญเซบาสเตียนแห่งนครหลวง

(Metropolitan Cathedral of San Sebastian) เป็นวิหารคริสต์คาทอลิกประจำเมือง ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงอาคารที่เป็นรูปกรวยคว่ำ วิหารประจำเมืองนี้ถือเป็นศาสนสถานที่อุทิศให้แก่นักบุญเซบาสเตียนซึ่งเป็นนักบุญประจำนครริโอ เดอ จาเนโร ภายในสามารถมีนั่งจุได้ถึง 5,000 คน กรุด้วยกระจกสีสูงขึ้นไปถึงยอด ภายในมีความสูงจากพื้นจรดเพดานที่ 65 ม. การออกแบบนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากปิรามิดของชาวมายัน ซึ่งเป็นชนเผ่าโบราณในอเมริกาใต้
และส่วนพิพิธภัณฑ์ ในพิพิธภัณฑ์ชั้นใต้ดินมีเก็บ ‘กุหลาบทองคำ’ ซึ่งเจ้าหญิงอิซาเบลแห่งราชวงศ์บราซิลได้รับจากวาติกัน ในวาระที่ได้ลงพระนามกฏหมายการเลิกทาสในบราซิล