กำลังโหลด...
โปรดรอสักครู่
บัลแกเรีย
พลอฟดิฟ
เที่ยวบิน
โรงแรม
การเช่ารถ
การรับส่ง
*ค่าโดยสารไปกลับต่อ 1 ท่าน รวมภาษี แต่ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการจอง 399 บาท
เมืองพลอฟดีฟอาจแบ่งพื้นที่ได้ง่าย ๆ ออกเป็นสองส่วน ส่วนเมืองเก่า และ ส่วนเมืองใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอัดแน่นอยู่ในบริเวณเมืองเก่าและบริเวณโดยรอบ ที่นี่มีบริเวณที่เป็นโบราณสถานมากกว่า 200 แห่ง ดังนั้นอย่าแปลกใจถ้าเดินไปทุกสิบเก้าก็จะเจอไซท์โบราณสถานอีกแห่ง หากคุณหลงไหลไปในตำนานความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ จะหลงรักเมืองเก่าพลอฟดีฟ ควรมีเวลาในบริเวณเมืองเก่านี้อย่างน้อยหนึ่งวันเต็ม รวมไปถึงใช้เวลาในช่วงเย็นค่ำสำรวจแกลอรี่ และร้านอาหาร บาร์กิ๊บเก๋ในย่านคาปานา (Kapana) กว่าคุณจะรู้สึกตัวก็เต็มใจ ‘ติดกับ’ ไปเสียแล้ว สิ่งที่เราแนะนำในการเที่ยวพลอฟดีฟ คือ
แนะนำว่าให้เริ่มจากไฮไลท์ที่เด่นที่สุด อัฒจันทร์โรมันโบราณ (Roman Theatre) หรือเรียกอีกชื่อว่า อัฒจันทร์โบราณแห่งฟิลิปโปปอลิส (The Ancient Theatre of Philipopolis) เป็นอัฒจันทร์โรมันโบราณที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุด และถือเป็นหน้าตาของเมืองพลอฟดีฟ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน จะมีงานแสดงดนตรี, ละคร, เต้นรำมากมายที่นี่ เพราะเป็นฉากที่ขลังและสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ไกลกันมากคือ สนามกีฬาโรมันโบราณ (Roman Stadium) ที่อาจทำให้คุณแปลกใจด้วยภาพที่มีการสร้างถนนคนเดินข้ามเหนือสนามความจุกว่า 30,000 คน และมีร้านบูติคติด ๆ กัน ราวกับว่าสนามกีฬาอายุกว่าพันปีนี้เป็นเหมือนสวนสาธารณะประจำเมือง อีกที่หนึ่งไม่ควรพลาดคือ โถงระเบียงคดโบราณไอรีน (Ancient Peristyle Building Eirene) ที่มีการสร้างหลังคาและผนังแบบทันสมัยหมดจด ครอบส่วนฐานที่เป็นพื้นประดับงานโมเสคที่งดงามเก่าแก่ และจัดแสดงงานช่างศิลป์โบราณที่ขุดค้นพบ อันจะหาดูจากที่อื่นแบบเดียวกันนี้แทบไม่ได้แล้ว สุดท้ายใส่แรงอีกสักหน่อยขึ้นไปบนเนินเนเบ็ทเทเป้ (Nepet Tepe) จุดที่เรียกได้ว่าน่าจะเก่าแก่ที่สุดของเมือง นอกจากได้ชมวิวเมืองเก่าทั้งเมืองแล้ว จะยังได้เห็นร่องรอยกำแพงและรากฐานโบราณของกลุ่มชนที่เรียกได้ว่ามาตั้งรกรากที่พลอฟดีฟเป็นพวกแรก ๆ
ในบริเวณเมืองเก่า มีบ้านและอาคารหลายหลัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของผู้มีอันจะกินหรือผู้มีชื่อเสียงของเมืองในแต่ละยุค ที่ยังคงมีการรักษาไว้ได้เกือบสมบูรณ์แบบ แต่ละแห่งในปัจจุบันส่วนใหญ่เปิดให้เข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์หรือแกลอรี่จัดแสดง เฉพาะการเก็บภาพภายนอก ก็ทำให้คุณเพลินจนลืมเมื่อยไปได้ บางหลังนั้นสร้างคร่อมอยู่บนกำแพงเมืองเก่าเลยทีเดียว เช่น ฮีซาร์ คาร์เพีย (Hisar Karpia) ซึ่งการสร้างเปลี่ยนไปตามความต้องการของผู้ครอบครองในแต่ละยุคจนเป็นเช่นนี้ บ้านบาลาบานอฟ (Balabanov House) ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานดนตรีและศิลปะสำคัญของเมืองถือเป็น สัญลักษณ์ของวัฒนธรรมแห่งเมืองพลอฟดีฟ เป็นสิ่งก่อสร้างที่สะท้อนภูมิปัญญาของสถาปนิกชาวบัลแกเรียในศตวรรษที่ 19 ในการจัดวางสมมาตรของบ้านนี้เนื่องจากสร้างอยู่บนเนินเขา และยังขยายให้ชั้นสองมีขนาดที่ใหญ่กว่าชั้นล่าง ภายในจัดแสดงภาพงานฝีมือไว้หลายภาพ อาจด้วยความสำเร็จของการก่อสร้าง ก่อให้เกิดอาคารในลักษณะนี้ทว่าใหญ่กว่า คือบ้านลามาร์แตง (Lamartin House) เป็นอาคารตึกผสมไม้สามชั้นที่สมบูรณ์ในด้านการจัดวางสมมาตรและใหญ่ที่สุดในเมือง ให้ชื่อตาม กวีชาวฝรั่งเศสที่โด่งดัง อัลฟองเซ่ เดอ ลามาร์แตง เดินทางมาพำนักที่นี่ระหว่างกลับจากตะวันออกกลางในปี1833 และมีความประทับใจจนนำไปใช้ในงานเขียนของเขา สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดคือ พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาแห่งพลอฟดีฟ บ้านสองชั้นสีน้ำเงินเข้มงดงามด้วนสไตล์บาโรคจากยุคศตวรรษที่ 19 ไม่แน่คุณอาจได้ไอเดียอะไรดี ๆ สำหรับบ้านในฝันของคุณ
คาปาน่า เป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างมีรสนิยมของความเก่าในพลอฟดีฟและศิลปะของการใช้ชีวิตตามสมัย เดิมเป็นย่านตลาดบาซาร์เก่าที่เป็นที่รวมตัวกันของช่างฝีมือในแขนงต่าง ๆ ดังนั้นชื่อถนนเส้นเล็กเส้นน้อยในย่านนี้จึงเป็นชื่อเรียบง่ายเช่น ถนนเหล็ก, ถนนทอง, ถนนหนัง เป็นต้น ปัจจุบันย่านนี้เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งรวมของร้านค้า, แกลอรี่, บาร์ และร้านอาหารขนาดกลางถึงเล็กที่เก๋ไก๋ ขายสินค้าและงานศิลปะเฉพาะตัว มีการตกแต่งอาคารสองชั้นขนาดเล็กให้ยังคงรูปทรงเดิมแต่ทาสีให้ฉูดฉาด เดิน ๆ ไปอาจหลงนึกว่าอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม โดยเฉพาะตั้งแต่การประกาศให้พลอฟดีฟเป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2019 ทำให้ย่านคาปาน่าแห่งนี้เป็นแหล่งเพาะอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์ให้ถีบตัวชัดเจนขึ้น
สวนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1892 โดยสถาปนิกภูมิทัศน์ชาวสวิส ลูเซี่ยน เชวาลาส ภายหลังจากการทุ่มเทอย่างเต็มที่ ชาวเมืองพลอฟดิฟถึงกับยกย่องเขาให้เป็น “รัฐมนตรีกระทรวงดอกไม้” เสน่ห์ของสวนแห่งนี้ที่ไม่ควรพลาด คือ น้ำพุเพลง (Singing Fountain) ที่จัดแสดงในช่วงสามทุ่มของวันพฤหัสฯ – เสาร์ในช่วงฤดูร้อน เพลินตาไปกับการแสดงแสงสีเสียงประกอบไปกับการแสดงน้ำพุ พร้อม ๆ กับรวมตัวไปกับชาวเมืองที่มาหย่อนใจไปกับระบำน้ำพุนี้เช่นกัน ในไม่นานมานี้ น้ำพุเทพีดีมิเตอร์ (Fountain of Goddess Demeter) และศาลาเวียนนา (Viennese Pavilion) ได้กลับมาประดับสวน เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้กับสวนประจำเมืองแห่งนี้
มาเยือนเมืองที่มั่งคั่งด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่อย่างพลอฟดีฟ สิ่งหนึ่งที่แนะนำเป็นพิเศษคือ ชิมอาหารแบบพื้นเมืองชาวบัลแกเรีย หรือ รูเมเลียตะวันออก และสิ่งที่จะทำให้มื้อนี้พิเศษยิ่งขึ้นคือมีดนตรีพื้นเมืองพร้อมการแสดงเต้นรำแบบพื้นเมือง หรือ เลือกอาหารมื้อพิเศษแบบมีระดับขึ้นมาอีกหน่อยในบรรยากาศร้านหรูแฟนซีขึ้นมาอีกนิดให้บรรยากาศแบบโรมันโบราณหน่อย ๆ เหมือนเราได้สัมผัสความหรูหราของโรมันเล็กน้อยพอได้อรรถรส ร้านอาหารหลายที่ในพลอฟดิฟดัดแปลงมาจากบ้านเก่าที่มีงานสะสมจากยุคโบราณให้ดูในส่วนแกลอรี่ด้วย
ไปพลอฟดิฟ จาก
กรุงเทพ
ภูเก็ต
เชียงใหม่
นี่คือค่าโดยสารที่ต่ำที่สุดใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาโดยผู้เยี่ยมชมของ CheapTickets.co.th ซึ่งไม่รวม ค่าธรรมเนียมการจอง 399 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม
*Return fares per person, including taxes, excluding ฿399 booking fee.
เพื่อเดินทางไปยังพลอฟดีฟ จุดหมายที่ต้องไปร่อนเครื่องลง คือ กรุงโซเฟีย จากประเทศไทย มีหลากหลายข้อเสนอของสายการบินมากมายที่มีเส้นทางสู่สนามบินใหญ่นี้ CheapTickets.co.th จะช่วยประหยัดเวลาในการเลือกตั๋วเครื่องบินของหลากหลายสายการบินที่ตรงใจคุณมากที่สุด ในราคาที่คุ้มที่สุด พร้อมรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ อย่างไม่ขาดตก เช่น ชั่วโมงระหว่างรอต่อเครื่อง, บริการต่าง ๆ ที่มีให้บนเครื่อง หรือบริการอาหารประเภทต่าง ๆ เพราะแม้จะจอตั๋วจากสายการบินเดียว แต่พอเปลี่ยนเครื่องก็อาจให้บริการด้วยสายการบินอื่น ลองคลิ้กกับ CheapTickets.co.th เข้ามาดูแล้วจะรู้ว่าทั้งข้อมูลและบริการของเราให้คุณได้ครบครันเพียงใด