สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในมัลดีฟส์:

ใในยุคแรก ๆ ของการท่องเที่ยวมัลดีฟส์อาจจำกัดอยู่แค่การไปสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติงดงามอย่างฟ้าสวย ทะเลใส ปะการัง สัตว์น้ำในนิเวศน์ที่สมบูรณ์จนขึ้นชื่อไปทั่วโลก ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงอิทธิพลจากฤดูมรสุม ต่อมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทำให้มัลดีฟส์พัฒนาตัวเองขยายความเจริญเผยความน่าสนใจของเกาะบริสุทธิ์อื่นๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงพื้นที่เกาะซึ่งสร้างขึ้นใหม่ด้วยวิวัฒนาการล้ำๆ ของโลกยุคใหม่

หาดฮุลฮูมาเล่

ฮุลฮูมาเล่ก็คือชื่อของเกาะที่เป็นที่ตั้งเมืองมาเล่ อันมีฐานะเป็นเมืองหลวงของมัลดีฟส์นั่นเอง ชายหาดแห่งนี้จะอยู่ทางใต้ของตัวเกาะ เป็นศูนย์กลางความทันสมัยมีชีวิตชีวาที่เหล่านักท่องเที่ยวจะไม่พลาดมาสำรวจความเป็นมัลดีฟส์ เพราะมีสถานที่สำคัญ ที่ทำการของรัฐและเอกชนมากมาย ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามที่รีสอร์ตที่พักที่จับจองไว้

มัสยิดฮูคูรู

ความพิเศษที่ทำให้ควรไปเยี่ยมชมมัสยิดใหญ่แห่งเดิมหรือที่เรียกกันว่า มัสยิดโอลด์ฟรายเดย์คือการตกแต่งภายในที่ประดับประดาด้วยงานแกะสลักไม้เป็นตัวอักษรจากคัมภัร์อัลกุรอาน อันเป็นศิลปะจากศรัทธาย้อนไปถึงศตวรรษที่ 13 ซึ่งศาสนาอิสลามเริ่มเข้าสู่มัลดีฟส์ มัสยิดนี้สร้างขึ้นราวปี 1656 บนที่เดิมที่เคยเป็นมัสยิดเก่าหลายร้อยปีก่อนในทิศทางที่แหวกประเพณี คือไม่ได้หันหน้าไปทางทิศที่ตั้งของเมกกะ แต่หันไปทางทิศตะวันด้านพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทำให้หลายสิ่งในมัสยิดดูแปลกตาไปจากมัสยิดอื่นๆ

ศูนย์อิสลามมัลดีฟส์

ในบริเวณเดียวกันกับศูนย์ศึกษาศาสนาอิสลามใจกลางเมืองหลวงมาเล่ยังเป็นที่ตั้งของมัสยิดใหญ่ หรือที่เรียกว่า มัสยิดแกรนด์ฟรายเดย์ ศาสนสถานที่สร้างขึ้นอย่างใหญ่โตในปี 1984 ด้วยทุนทรัพย์ที่ลงขันมาจากพี่น้องมุสลิมกลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย มาเลเซีย บรูไน ปากีสถาน รูปลักษณ์มัสยิดจึงไม่บ่งบอกรูปแบบศิลปะของเชื้อชาติใดเด่นชัด หากความเรียบง่ายร่วมสมัยด้วยหินอ่อนเนื้อดีสีขาว ที่ยกความโดดเด่นสูงสุดให้กับยอดโดมสีทอง

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ

หากคิดว่ามัลดีฟส์เป็นประเทศเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลกว้างใหญ่ คงที่ไม่มีประวัติความเป็นมาน่าศึกษา นั่นอาจทำให้คุณพลาดการเชื่อมต่อประวัติศาสตร์โลกที่สำคัญทั้งด้านศาสนา เช่น เกาะมัลดีฟส์เคยเป็นแหล่งที่พุทธศาสนามีความรุ่งเรืองก่อนจะกลายเป็นรัฐสุลต่านอิสลาม การเดินเรือติดต่อค้าขายที่พ่อค้านานาชาติแวะรับสินค้าและเสบียง ฯลฯ มัลดีฟส์ล้วนมีส่วนร่วมมาตั้งแต่ในยุคโบราณ และความเป็นมานั้นถูกรวบรวมบอกเล่าไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของมัลดีฟส์อย่างน่าทึ่ง

จุดชมฉลามหัวค้อน

ห้วงน้ำบริเวณนอกแนวปะการังเกาะราสด์ฮู ซึ่งมีความลึกถึง 200 เมตร และน้ำก็ใส่เสียจนมองได้ชัดแจ๋ว
กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ จากคำบอกเล่าชนิดปากต่อปากของนักดำน้ำที่พบเห็นสัตว์หายากอย่างฉลามหัวค้อน รวมถึงสัตว์ใหญ่อย่างกระเบนราหู และอื่นๆ อีกหลายชนิดมักว่ายเวียนไปให้ชมโฉมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้มีบางรีสอร์ตจัดทริปเก๋ ๆ อย่างมื้อเช้ากับเจ้าหัวค้อน พานักท่องเที่ยวไปดำน้ำตั้งแต่รุ่งสางเพื่อรอชมฉลามหัวค้อน