สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ:
เคปทาวน์นั้น ต่างจากเมืองอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกาที่ให้ความรู้สึกของความหรูหราอยู่ในทีของเมืองชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มากกว่า ผู้มาเยือนจะรู้สึกได้ ตั้งแต่เห็นภาพท่าเรือยอร์ชสุดหรูเรียงราย ใกล้คลับส่วนตัวและโรงแรมติดทะเล มีการเที่ยวฟาร์มไร่องุ่นชิมไวน์ชั้นนำ ขับรถชมวิวบนถนนเลียบหาดสู่เมืองไซมอน(Simon’s Town) เดินเล่นถ่ายรูปร้าน, บ้าน, และคาเฟ่ ที่สืบทอดมาจากยุค 1900 จิบกาแฟที่คาเฟ่ริมท่าเรือวิคตอเรีย&อัลเบิร์ท พร้อมเลือกซื้อของดีไซน์เก๋ไก๋จากร้านต่างๆ ในมอลล์แห่งนี้ และเดินฝ่าลมไปถ่ายรูปกับแหลมกู้ดโฮ้ป (The Cape of Goodhope)
ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาโต๊ะ (Cable Car to Table Mountain)
ภูเขาโต๊ะหรือเทเบิ้ลเม้าท์เท่น (Table Mountain) เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองเคปทาวน์ ได้ชื่อนี้มาด้วยลักษณะของยอดเขาที่เหมือนถูกตัดเรียบราวกับโต๊ะทานข้าวอย่างเป็นธรรมชาติ ในตอนเช้า มักจะมีหมอกเย็นปกคลุมบาง ๆ สวยงาม นอกจากจะเป็นจุดชมวิวที่ดี่ที่สุดจุดหนึ่งของเมืองแล้ว หากโชคดีพออาจะได้เจอกระรอกภูเขาด้วย กระเช้าขึ้นเขานั้นเป็นกระเช้าที่สามารถหมุนได้รอบ 360 องศา จึงเป็นโอกาสอีกจุดหนึ่งที่จะได้ชมทัศนียภาพรอบข้าง
คอมเพล็กซ์ริมน้ำท่าเรือ วิคตอเรีย&อัลเบิร์ต (Victoria & Albert Waterfront)
เป็นหนึ่งในคอมเพล็กซ์มอลล์รุ่นแรก ๆ ของเมือง และทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ อาคารริมน้ำแห่งนี้เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า, ที่ตั้งร้านค้าแบรนด์ท้องถิ่นต่าง ๆ , ร้านอาหารชื่อดัง, คาเฟ่และบาร์ต่าง ๆ ทุกวันนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเคปทาวน์ไปด้วยเสียแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสองมหาสมุทร (Two Ocean Aquarium) ในตารางการท่องเที่ยวเมืองเคปทาวน์ หากไม่ได้แวะมาที่นี่ ก็เหมือนไม่ได้สัมผัสเคปทาวน์ครบรส
เก็บภาพที่แหลมกู้ดโฮป (The Cape of Good Hope)
หากว่ากันตามความจริงทางภูมิศาสตร์ แหลมกู้ดโฮปอาจไม่ใช่จุดที่อยู่ใต้ที่สุดทว่าเป็นรองเท่านั้น กระนั้นก็ตาม ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังถือว่าเป็นจุดใต้สุดของทวีปแอฟริกา และเป็นจุดบรรจบของมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดียร่วมกันกับแหลมอากูลอาสที่ห่างไปไม่ไกลนัก เนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดปะทะกันระหว่างสองกระแสน้ำ จึงทำให้การแล่นเรือผ่านเป็นไปได้ยาก ดังนั้นพระสังฆราชแห่งโปรตุเกสทรงตั้งชื่อให้ใหม่เป็นเป็น “แหลมแห่งความหวัง” สำหรับเรือที่ผ่านไปได้จะได้ไปเปิดโลกใหม่ ที่นี่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทุกคน (ที่ยังมีแรงเดินไต่ก้อนหินและสู้ลมไหว) ต้องเก็บภาพไว้
ส่องนกเพนกวินแอฟริกาที่เมืองไซมอน (Watching African Penguins at Simon’s Town)
ห่างจากตัวเมืองเคปทาวน์ไปประมาณ 40 ก.ม. หรือ อีกด้านหนึ่งจากแหลมกู้ดโฮป เป็นที่ตั้งของเมืองไซมอน (Simon’s Town) เป็นฐานที่ตั้งของกองทัพเรือแอฟริกาใต้ เป็นเมืองขนาดเล็กที่เคยเป็นถิ่นที่ตั้งแรก ๆ ของชาวยุโรปที่มาตั้งบริษัทเดินเรือที่ดินแดนนี้ ที่หาดโบลด์เดอร์ส (Boulders Beach) เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกเพนกวินแอฟริกัน กว่า 3,000 ตัว ผู้มาชมสามารถชมนกเพนกวินที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระไว้เหล่านี้ได้ในระยะใกล้ถึงใกล้ที่สุด และเพนกวินนี้เองที่ได้เป็นดาราดาวเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยวมาไม่ขาดสาย
ชมไร่องุ่นและชิมไวน์ (Wine Tasting)
อาจเรียกได้ว่าต้นกำเนิดของไวน์แอฟริกาใต้ที่เลื่องชื่อ มีต้นกำเนิดมาจากบริเวณแหลมตะวันตกทั้งหมดนี้ โดยมีเคปทาวน์เป็นศูนย์กลางการจำหน่ายและส่งออก ไร่องุ่นหลายแห่งนอกจากการผลิตไวน์แล้วยังผันตัวเองมาให้บริการทัวร์ผู้สนใจและมีคอร์สการชิมไวน์พร้อมอาหารด้วย สิ่งที่แต่ละไร่มอบให้นอกจากวิธีการชิม การดูไวน์แล้ว จะมีการสร้างบรรยากาศให้ต่างกันไปตามการสร้างสรรค์ของแต่ละแห่ง เช่น บางที่เน้นความเป็นดั้งเดิมแบบชาวยุโรป บางที่เน้นความเป็นสมัยใหม่ หรือ บางที่ก็ทำให้คุณหลงไปว่ากำลังอยู่แคว้นทัสคานี่ของอิตาลีแทน หากอยากรู้ ต้องไปลองดู