สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ:

กรุงแมดริด อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางระดับคลาสสิคที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ อย่างกรุงปารีส, กรุงลอนดอน หรือกระทั่งเมื่อเทียบกับบาร์เซโลนาห์ ทว่าความที่เดินทางง่ายด้วยความที่เป็นศูนย์กลางการเดินทางใหญ่ ไม่ว่าใครที่จะเดินทางไปจุดใดในสเปนจะต้องผ่านที่เมืองนี้ ทำให้แมดริดมีการพัฒนาตัวเองในฐานะเมืองท่องเที่ยวอย่างมาก และพบจุดยืนของตัวเองในฐานะเมืองแห่งศิลปะ เพราะที่นี่เป็นแหล่งสะสมและค้าขายงานศิลปะมาแต่ไหนแต่ไร และมรดกทางวัฒนธรรมตั้งแต่การตั้งเมืองเป็นศูนย์กลางของประเทศตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ทั้งยังผ่านการขัดเกลาเมืองจากกษัตริย์สเปนองค์ต่าง ๆ รวมถึงการคงเหลือของวัฒนธรรมฝรั่งเศสจากนโปเลียนด้วย ที่โด่งดังคือ “สามเหลี่ยมทองคำงานศิลป์” (Golden Triangle of Art) ซึ่งเป็นบริเวณศูนย์ที่ตั้งของสามพิพิธภัณฑ์ใหญ่ของเมือง, “พระราชวังหลวง” (Palacio Real) ที่โอ่อ่าภูมิฐานจากภายนอกและหรูหราจับตาเมื่อได้ชมภายใน, ถนน “กรานด์เวีย” (Gran Via) บรอดเวย์ของแมดริด, และที่มีชื่อเสียงนักหนาคือการได้สัมผัสชีวิตของชาวเมืองแมดริด ที่ทำให้เมืองนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองที่สนุกสนานและมีการใช้ชีวิตที่ดีทีสุดแห่งหนึ่ง

พิพิธภัณฑ์ปราโด (Prado Museum)

กว่าจะได้เขา้่ชมในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อาจจะไม่ได้ง่ายขนาดที่ไปซื้อตั๋วด้านหน้าแล้วเข้าชมได้เลย เพราะในแต่ละปีมีผู้เข้าชมมากกว่าสองล้านคนและมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของโลก มีผลงานอันน่้าตื่นตะลึงนับหมื่นชิ้น ทั้งงานภาพวาด, รูปปั้นแกะสลัก และภาพพิมพ์ ทั้งยังโครงการที่จะขยายพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ไปอีก ดังนั้นการจองตั๋วล่วงหน้าจะประหยัดเวลากว่ามาก ในบรรดาสามพิพิธภัณฑ์ของสามเหลี่ยมทองคำ ปราโดอาจเรียกได้ว่าเป็นเพชรยอดมงกุฏเลยทีเดียว ซึ่งยังไม่นับความโอ่อ่าอลังการของสถาปัตยกรรมอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติพระราชินีโซเฟีย

ในขณะที่ปราโดเก็บงานชิ้นเด่น ชิ้นที่สะดุดตา งานชิ้นโบว์ทองคำของเหล่าศิลปินเก่าแก่ทั้งหลาย พิพิธภัณฑ์โซเฟียจะเน้นการเก็บผลงานของศิลปินชาวสเปนะและงานศิลปะของยุคศตวรรษที่ 20 เสียเป็นส่วนใหญ่ กล่าวได้ง่าย ๆ ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อศิลปะสมัยใหม่โดยเฉพาะ รวมถึงผลงานชิ้นเอกหลายชิ้นของปิกัสโซ่ด้วย ที่นี่ยังมีจัดบริการห้องสมุดขนาดมหึมาที่มีหนังสือกว่า 100,000 เล่ม หลังจากการขยายพื่นที่แกลอรี่เป็นกว่า 8,000 ตร.ม.ในปี 2005 ทำให้แกลอรี่แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปีผู้เข้าชมมากกว่า 3 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว

พิพิธภัณฑ์ทิสเซ่น บอร์เนอมีซซ่า

เริ่มจากการเก็บสะสมภาพวาดส่วนตัวของ บารอนทิสเซ่น ในช่วงปี 1920 ซึ่งแต่เดิมเก็บรักษาอยู่ในบ้านพักส่วนตัวของท่านบารอนที่เมืองลูกาโน ประเทศอิตาลี ภายหลังจากที่ภรรยาใหม่ของท่าน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนางงามสเปนในปี 1961 เกลี้ยกล่อมให้ท่านบารอนตกลงที่จะย้ายภาพสะสมมีค่าเหล่านี้กลับมาที่สเปนอีกครั้ง ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดตึกแสดงงานสมฐานะไว้ ใกล้ ๆ กับพิพิธภัณฑ์ปราโด ในปี 1992 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงได้เปิดให้เข้าชมการจัดแสดงอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยภาพสะสมจำนวนกว่า 700 ชิ้นงาน เป็นงานสไตล์อิมเพรสชั่นนิส, เอ็กเพรสชั่นนิส, และกระทั่งผลงานของยุคศตวรรษที่ 20 ทั้งงานชิ้นเยี่ยมของรูเบนส์ ศิลปินแห่งเมืองอันทเวิร์ปของเบลเยี่ยม และผลงานของวินเซนท์ แวนโก๊ะ

พระราชวังหลวงแห่งกรุงแมดริด

แม้ได้ชื่อว่าเป็นพระราชวังหลวงอย่างเป็นทางการ ทว่าพระราชาธิบดีฟิลิปเป้ที่ 6 และพระราชินีมิได้ประทับอยู่ที่นี่ แต่ประทับอยู่ที่พระราชวัง ซาร์ซูเวล่า ณ ชานกรุงแมดริดแทน ที่พระราชวังหลวงพื่นที่กว่า 135,000 ตร.ม.แห่งนี้ มีจำนวนห้องกว่า 3,500 ห้อง หากนับที่ความกว้างของชั้นพื่นที่แล้วจะเป็นพระราชวังหลวงที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้เลยทีเดียว และจัดเป็นทั้งเกียรติยศและสัญลักษณ์ของประเทศ ทั้งด้วยความกว้างใหญ่ของพื้นที่ ที่ตั้งเลียบริมฝั่งแนวแม่น้ำ และความงดงามของสถาปัตยกรรม ยังไม่รวมการตกแต่งอย่างโอฬารหรูหราอย่างเต็มที่ด้วยงานสะสมที่สืบทอดต่อกันมาในราชวงค์ สมบัติล้ำค่าในท้องพระคลัง และภาพเขียนที่ประเมินมูลค่าไม่ได้จำนวนมาก การเข้าชมพระราชวังขอแนะนำให้ทำการซื้อตั๋วล่วงหน้าเพื่อจะประหยัดเวลาในการเข้าคิวยาว

สนามกีฬาซานทีอาโก เบอร์นาโบ

ชื่อเสียงเรื่องกีฬาฟุตบอลชั้นนำของยุโรปและของสเปนนั้น จะมีทีมฟุตบอลที่โด่งดังข้ามชาติอยู่สองแห่ง หนึ่งในนั้นคือทีมฟุตบอลเรียล แมดริด (Real Madrid) ดังนั้น สนามกีฬาประจำทีมแห่งนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ใฝ่ฝันของแฟนกีฬาฟุตบอลทั้งหลาย ด้วยความจุผู้ชมที่มากถึงกว่า 80,000 คน ในวันที่ไม่มีการซ้อมหรือการแข่ง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมสนามกีฬาและส่วนพิพิธภัณฑ์ของสมาคมได้ ก็จะได้ชมทั้งหอเกียรติยศ, ถ้วยรางวัลต่าง ๆ ,และ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของนักกีฬา แต่หากเป็นสองสามวันก่อนมีการใช้สนาม นักท่องเที่ยวอาจเข้าชมไม่ได้ทุกส่วน ซึ่งก็จะได้รับการลดหย่อนค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ตามไปด้วย

ถนนกรานด์เวีย

ชื่อนี้ หากแปลตรงตัวจะแปบได้ว่า “ทางที่ยอดเยี่ยม” หรือจะแปลได้อีกความหมายหนึ่งว่า “ถนนบรอดเวย์” ถนนเส้นนี้เป็นแหล่งชุมนุมของร้านค้าในตอนกลางวัน และเป็นที่รวมตัวอย่างหนาแน่นของบาร์ในตอนกลางคืน มีการให้ฉายาว่า “ถนนที่ไม่เคยหลับ” เพราะบาร์คลับต่าง ๆ จะพากันเปิดยาวไปจนถึง หกหรือเจ็ดโมงเข้าเลยทีเดียว สำหรับท่านที่ไม่นิยมการช็อปหรือบาร์ ก็ยังสามารถเดินเล่นไปตามถนนชมงานอาคารซึ่งสร้างไว้อย่างงดงามอลังการ ซึ่งดูจะขัดแย้งในความตั้งใจแต่เดิมในการออกแบบวางผังถนนเส้นนี้ให้เป็นไปแบบ ‘เรียบง่าย’

เมืองโทเลโด

ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของแมดริดประมาณ 60 กว่าก.ม. เป็นที่ต้้งของเมืองโทเลโด เมืองหลวงเก่าของสเปนที่ยังคงความอลังการสูงศักดิ์ของเมืองโบราณ ล้อมรอบไปด้วยกำแพงหนาจากสมัยโบราณ เมืองโทเลโดทั้งเมืองเก่า ได้รับการจะทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่สามารถมองเห็นได้รอบ 150 องศา อาคารที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ ป้อมปราสามอัลคาซาห์ (Alcazar of Toledo) ภายในยังคงมีมรดกของชาวมุสลิมและโบสถ์ยิวจากประวัติศาสตร์ยุคโบราณอยู่ เสน่ห์ของเมืองนี้คือการได้เดินลัดเลาะหลงทางชมเมืองไปเรื่อย และแวะซื้อดาบโทเลโดกลับมาเป็นของที่ระลึก เดินทางจากแมดริดไปเพียง 30 นาทีทางรถไฟ หรือขับรถไม่เกินหนึ่ง ช.ม.

เมืองเซโกเวีย

ประมาณ 90 ก.ม. ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจากแมดริด เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกของสเปน ด้วยทัศนียภาพของท่อส่งน้ำโรมันโบราณ (Roman Aqueduct) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองนี้ และเป็นประตูเมืองก่อนเข้าสู่เขตเมืองโรมันเก่า เคยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนค้าขายที่สำคัญในยุคประวัติศาสตร์ ท่อส่งน้ำนี้ลำเลียงน้ำมาจากแหล่งน้ำที่ไกลออกไปถึง 15 ก.ม. ประกอบไปด้วยหินแกรนิตกว่า 25,000 ก้อน ประกอบกันขึ้นโดยไม่่ต้องใช้ปูนเชื่อม เป็นความฉงนฉงายของเทคโนโลยีโบราณนี้ ปัจจุบันผู้มาเยือนเซโกเวีย นอกจากการได้ชื่นชมท่อส่งน้ำและเมืองเก่าที่ยังคงกลิ่นอายโรมันโบราณนี้ ยังจะไม่พลาดอาหารมื้อสำคัญ คือ หมูหันย่างสไตล์เซโกเวียที่เป็นอาหารขึ้นชื่อ