สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในลักเซมเบิร์ก

คนที่ชอบฟังเรื่องเล่าตำนานเก่าแก่ หรือเป็นนักศึกษาประวัติศาสตร์ การไปเยี่ยมชมโบราณสถานต่างๆ ของลักเซมเบิร์กจะทำให้ภาพของเรื่องราวที่เคยฟัง เคยร่ำเรียนมาจะชัดเจนขึ้นจนเราเข้าใจความเป็นมาสังคมโลกได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นซากปราสาท ป้อมปราการที่ได้รับการบูรณะคืนชีวิตขึ้นอีกครั้ง หรือที่พักสุดท้ายของเหล่าทหารหาญต่างชาติ

พระราชวังหลวงแกรนด์ดูคัล

ที่ประทับอย่างเป็นทางการของผู้ปกครองลักเซมเบิร์ก ท้องพระโรงว่าราชการ ที่ทำการรัฐบาล... อาคารที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่มีหลังคาหอคอยเป็นยอดแหลมนี้ถูกใช้เป็นศาลากลางของเมืองอยู่เกือบ 200 ปี ตั้งแต่ปี 1572 เป็นต้นมาก่อนจะกลายมาเป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ อยากจะเข้าชมด้านในต้องเตรียมเรื่องบัตรเข้าชมให้ดี เพราะรอบบรรยายภาษาอังกฤษมีจำกัด และแต่ละรอบก็จะให้เวลาชมเพียง 45 นาที ซึ่งอนุญาตให้เข้าได้เพียงรอบละ 40 คนเท่านั้น

สุสานทหารอเมริกัน

แม้จะเป็นสุสานแต่ภายในสถานที่แห่งนี้กลับไม่น่ากลัวเลย เพราะได้รับการออกแบบตกแต่งและดูแลรักษาความเรียบร้อยเอาไว้อย่างดี มีความสวยงามร่มรื่นสมเป็นที่พักสุดท้ายและอนุสรณ์ถึงความกล้าหาญ เสียสละของเหล่าทหารหาญที่พลีชีพในสงครามโลกครั้งที่ 2 มีข้อมูลบอกเล่าถึงการศึกและนายทหารคนสำคัญ โดยผู้บัญชาการรบคนสำคัญอย่างนายพลจอร์จ แพตตัน เจ้าตำนานก็พักผ่อนอยู่ใต้ผืนดินกลางเมืองหลวงแห่งนี้

ปราสาทโบฟอร์ต

หลังดงไม้หลังหมู่บ้านโบฟอร์ต สิ่งก่อสร้างในรูปลักษณ์ของป้อมปราการปราสาทหินทรายจากยุคกลาง มีความสูงถึง 5 ชั้น ผ่านร้อนหนาวหลายต่อหลายศตวรรษจนมาจนโดนระเบิดของสงครามโลกครั้งที่ 2 เสียหายไปมาก แต่ปราสาทแห่งนี้ก็ยังคงยืนอยู่ได้ แม้ภายในจะไม่มีรายละเอียดหลงเหลือสักเท่าไหร่ แต่นักท่องเที่ยวจะได้รับการชดเชยด้วยสินค้าจากร้านของที่ระลึกอย่างเหล้าพลัมและเหล้าแบล็กคอเรนท์

วิหารแห่งนักบุญวิลลิบรอด

เอทเทอแนค เมืองที่ได้ชื่อว่ามีชีวิตชีวามากอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งจัดเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของลักเซมเบิร์กด้วย เพราะก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ประมาณค.ศ.600 กว่าๆ ความสำคัญของที่นี่คือเป็นที่ตั้งของโบสถ์แห่งนักบุญวิลลิบรอด ซึ่งเคยถูกทำให้เสียหายทลายลงหลายครั้งแต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นจนเป็นโบราณสถานที่งดงามเช่นปัจจุบัน นอกจากความงามน่าชมของศิลปะกระจกสีอันเลื่องลือ สุสานใต้ดินที่ฝังอัฐิธาตุของนักบุญก็น่าทึ่งมาก

ป้อมปราการบ็อคแคสเมทส์

ในสมัยของเคานท์ซีกฟรีด ที่ทำการสำรวจหาชัยภูมิสร้างปราสาทขึ้นในค.ศ.ปี 963 ทำให้มีพบว่าหน้าผาภูเขาบ็อคเหนือแม่น้ำอัลแซตเต็มไปด้วยซอกโพรงมากมายทะลุต่อกันเหมือนรวงผึ้ง เหมาะจะใช้เป็นปราการธรรมชาติป้องกันดินแดน สมัยสงครามโลกทั้ง 2 ครั้ง ปราการนี้ได้เป็นที่พักพิงคุ้มครองให้ผู้คนหลายหมื่นชีวิต ปัจจุบันมีการจัดแสดงเรื่องราวในหลายร้อยปีที่ผ่านมาว่าทั้งฝรั่งเศส สเปน ฮับสเบิร์ก ต้องใช้ความพยายามเพียงใดในการบุกยึด เข้าทำลายยุทธศาสตร์ฐานที่มั่นสุดแกร่งนี้