สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ:

เมืองบาเซิล คือ หม้อหลอมรวมวัฒนธรรมโบราณและสมัยใหม่ให้เข้ากันได้ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างน่าประหลาดใจ ที่นี่เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ที่หลากหลายมากที่สุด จนอาจเรียกได้ว่าเป็นเมกกะแห่งความรู้วัฒนธรรมแห่งหนึ่งของยุโรป และแน่นอนเป็นหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดชม อีกสิ่งหนึ่งที่จะเพลิดเพลินไปกับบาเซิลได้คือการเดินชมเมืองเก่า สนุกกับการชมอาคารโบราณที่แทรกการแต่งแบบใหม่ไว้สลับกันไปกับอาคารใหม่กริ๊บแบบโมเดิร์น แสดงให้เห็นลูกเล่นของสถาปนิกในบาเซิล ด้วยที่นี่มีชื่อเสียงอีกด้านของความเป็นแถวหน้าในสถาปัตยกรรมทุกรูปแบบ หนึ่งในนั้นที่ไม่ควรพลาดคือการได้ชมอาคารศาลากลางเมือง (Basel Town Hall) และโบสถ์บาเซิล (Basel Minster) ชมทัศนียภาพและความงามของแม่น้ำไรน์ที่ไหลผ่านเมือง สุดท้ายลองนั่งแทรมทรงวินเทจของบาเซิล ชมรอบเมือง

เมืองเก่า (Old Town Basel)

เมืองเก่าของบาเซลนั้นกินบริเวณไม่กว้างมากนัก พอเหมาะแก่การเดินเที่ยวชมได้รอบโดยไม่เหนื่อยมากนัก ถนนที่กรุด้วยหินก้อนเก่าแก่, โบสถ์จากสมัยยุโรปยุคกลาง, บ้านทรงโบราณที่ยังคงมีผู้อาศัยใช้งาน, และน้ำพุที่ตกแต่งด้วยการเพ้นท์สีสันใหม่ให้สดใส สิ่งที่ทำให้บริเวณเมืองเก่าของบาเซิลน่าสนใจกว่าที่อื่น ๆ คือ การคงอยู่ของอาคารเก่าแก่คละกันไปกับอาคารรูปทรงทันสมัยใหม่เอี่ยม ไม่มีการแบ่งแยก ทว่าทุกอาคารทั้งเก่าและใหม่ ทั้งแบบดั้งเดิมและแปลกตาทันสมัย ทั้งหมดกลับตั้งอยู่ร่วมย่านกันได้อย่างลงตัวไม่ขัดตา จุดหนึ่งที่น่าชมเป็นพิเศษคือประตู สปาลเทนเตอร์ (Spalentor) ประตูซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่าที่ทลายไปในปี 1866 ประตูหินทรงโบราณขนาดใหญ่ทำให้เราจินตนาการได้ว่าบาเซลแต่เดิมนั้น่าเกรงขามเพียงใด

ศาลาว่าการเมืองบาเซิล (Basel City Hall)

หากใครเคยได้รับหรือเห็นรูปโปสการ์ดส่งมาจากเมืองบาเซิล 5 ใน 10 จะเป็นรูปของอาคารสีแดงสด อาคารศาลาว่าการเมืองที่ตั้งอยู่ในใจกลางจัตุรัสเมืองเก่า เด่นสะดุดตาด้วยสีแดงสดทั้งอาคาร ตกแต่งด้วยภาพวาดเขียนสีเป็นลวดลายสดใสสวยงาม เป็นอาคารสไตล์เบอร์กันดีโกธิคสร้างในราว ฟ ปี 1504-1521 มีบางส่วนต่อเติมเพิ่มบ้าง หากได้เข้าไปชมลานรับแขกภายในอาคาร จะเสมือนได้เดินย้อนยุคไปในยุโรปยุคโบราณเลยทีเดียว

โบสถ์ประจำเมืองบาเซิล (Basel Minster)

และอีก 5 ใน 10 ของภาพโปสการ์ดเมืองบาเซิล นอกจากศาลาว่าการเมือง ก็จะเป็นโบสถ์ประจำเมืองแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินที่สูง ทั้งยังมีหอคอยที่สูงตระหง่านเป็นคู่กัน โบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองบาเซิล นอกจากหอคอยคู่ทรงแหลมนี้แล้ว ยังเด่นด้วยหลังคาโบสถ์สีสดประดับไว้เป็นลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ด้านหน้าโบสถ์ คือ จัตุรัสมุนส์เตอร์ (Muensterplatz) เดิมเป็นที่ตั้งของป้อมปราการของโรมันโบราณ ภายในยังเก็บรักษามรดกสำคัญมากมายนับตั้งแต่การเริ่มสร้างในปี 1019 ออกไปด้านนอกที่นี่ยังเป็นจุดชมแม่น้ำไรน์ที่ดีที่สุดของเมืองจุดหนึ่ง

น้ำพุคาร์นิวาล (Carnival Fountain )

สร้างโดยศิลปินที่เป็นที่รักยิ่งท่างหนึ่งของเมืองบาเซิล ชอร์น เตอร์นชลี่ย์ (Jean Tinguely) น้ำพุแห่งนี้จัดเป็นงานศิลปะร่วมสมัยชิ้นหนึ่งที่ชาวเมืองบาเซิลภูมิใจนักหนา และได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองตั้งแต่ปี 1977 เป็นผลงานการสร้างรูปปั้นแบบขยับกลไกได้ ในฤดูร้อนจะเห็นรูปปั้นน้ำพุแห่งนี้แต่ละชิ้นขยับย้ายไปมาพร้อมพ่นน้ำไปในรูปแบบต่าง ๆ กัน รูปประกอบเหล็ก 9 ชิ้นนี้จะขยับเคลื่อนไหวต่างกันไป ศิลปินออกแบบให้เป็นเช่นนี้ ให้แต่ละหุ่นได้ทำการ ‘คุย’กัน ตั้งอยู่ที่พลาซ่าบริเวณหน้าภัตตาคารกุนสทาลเลอ (แปลว่า แกลอรีศิลปะ)

เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ของเมืองบาเซิล (Visiting Museums in Basel)

เมื่อมาเยือนเมืองพิพิธภัณฑ์ คงแปลกหากไม่ได้มาเยือนสถานที่ซึ่งชาวบาเซิลนั้นภูมิใจนักหนา พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ของที่นี่แม้จะเน้นในเรื่องศิลปะ ทว่าก็มีความหลากหลายครอบคลุมกว้างขวาง ทั้งในด้านศิลปะโบราณ, ศิลปะร่วมสมัย, ประวัติศาสตร์, กระทั่งพิพิธภัณฑ์ด้านการออกแบบ หนึ่งแห่งที่ได้รับความสนใจจากน้อง ๆ หนู ๆ รวมถึงคุณผู้หญิงทั้งหลายที่นิยมของน่ารัก ๆ ก็จะเป็น พิพิธภัณฑ์ของเล่น (Spielzeug Welten Museum แปลว่า โลกแห่งของเล่น) ซึ่งยังเป็นที่ที่รวบรวมคอลเล็คชั่นตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ (Teddy Bear) ไว้กว่า 6,000 ตัว ใหญ่ที่สุดของยุโรป สำหรับผู้นิยมสไตล์และรักการออกแบบไม่ควรพลาดพิพิธภัณฑ์การออกแบบวิทร้า (Vitra Design Museum) แม้จะอยู่ในเขตแดนเยอรมันก็ยังเดินทางไปได้ง่ายเพียงนั่งรถไฟห้านาทีจากเมือง ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในแหล่งแรงบันดาลใจที่เยี่ยมที่สุดของโลกนักออกแบบ เพียงแค่ได้เห็นตัวอาคารก็จะตื่นตะลึง ที่เมืองบาเซิลยังมีพิพิธภัณฑ์หลากหลาย แปลกไปถึงกระทั่งว่ามีพิพิธภัณฑ์ประเพณีงานศพเสียด้วยซ้ำ

โบราณสถานออกัสต้ารอริก้า, เมืองออกซ์ท (Augusta Raurica, Augst)

อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองบาเซิลทางตะวันออกประมาณ 15 ก.ม. ออกัสต้ารอริก้า คือสวนโบราณสถานที่ใหญ่ที่สุดของสวิสเซอร์แลนด์ และอาจเป็นที่เดียวที่คุณจะได้เห็นอัฐจันทร์โรมันโบราณในภูเขาแอลป์ นักโบราณคดีประมาณว่า เมื่ออัฐจันทร์โบราณนี้ยังคงสมบูรณ์อยู่ น่าจะรองรับผู้คนได้ถึง 10,000 คน ปัจจุบันมากสุดคือ ไม่เกิน 2,000 คน จะมีที่ใดที่จะให้คุณได้เก็บภาพทุ่งดอกไม้ของเทืองเขาแอลป์พร้อมความอลังการของโรมันโบราณ ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนส.ค. จะมีการจัดงานเทศกาลโรมัน ที่คุณจะได้เห็นนักรบโรมันโบราณในชุดพร้อมรบเสมือนย้อนเวลากลับมาให้ได้เห็นของจริง