สิ่งที่ซูริกเสนอให้ นอกจากการเป็นศูนย์กลางการไปต่อยังจุดหมายท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่นออกไปเที่ยวน้ำตกไรน์ (Rhinefalls)หรือ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) ในตัวเมืองเองก็มีทั้งอารยธรรมประวัติศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะในย่านเมืองเก่า ซึ่งจะเห็นได้ดีที่สุดจากเนินลินเดอร์ฮอล์ฟ (Linderhof), เดินเล่นริมแม่น้ำดูร้านค้าที่จับจองอาศัยอยู่ในอาคารโบราณในย่านลิมมัทคีย์ (Limmatquai) เก็บภาพโบสถ์กรอสมุนสเตอร์ (Grossmünster ) และโบสถ์เฟรามุนเสตอร์ (Fraumünster) สัญลักษณ์ของเมืองที่ไม่ควรพลาด สุดท้ายเดินทอดน่องดูของช็อปปิ้งบนถนนสายหลักของเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นถนนช็อปปิ้งที่น่าเดินที่สุดแห่งหนึ่ง ถนนบาห์นฮอล์ฟ (Bahnhofstrasse)
ประมาณ 50 ก.ม. ไปทางตอนเหนือของเมืองซูริกใกล้ชายแดนเยอรมัน เป็นที่ตั้งของเมืองชาฟฮาวเซ่น (Schaffhausen) อันเป็นที่ตั้งของน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป ‘น้ำตกไรน์’ อาจเรียกได้ว่าเป็นน้อง ๆ น้ำตกไนแองการ่าของแคนาดาเลยทีเดียว และเป็นจุด ‘ต้องไป’ ในตารางทัวร์ของหลาย ๆ ที่ ในช่วงวันชาติของสวิสเซอร์แลนด์ วันที่ 1 ส.ค. จะมีการแสดงพลุที่อลังการงดงามเหนือน้ำตกไรน์
ห่างไปจากซูริกทางตอนใต้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม. ก็จะถึงเมืองลูเซิร์น เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวแรก ๆ ที่ผู้คนรู้จักในสวิสเซอร์แลนด์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งท่องเที่ยว และมีภาพของสะพานชาเปล (Chapel Bridge) ที่โด่งดัง เป็นสะพานข้ามแม่รอยซ์ที่สร้างในศตวรรษ์ที่ 14 ร้านค้ากว่า80% เป็นร้านสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ และอีกที่ที่ไม่ควรพลาด คือ การได้เก็บรูปกับอนุเสาวรีย์สิงโตสิ้นใจที่สร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ทหารรับจ้างที่เสียชีวิตในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส
เนินเขาที่เคยเป็นที่ตั้งของป้อมโรมันโบราณตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์ตอนต้นของเมืองซูริก ปัจจุบันเป็นสถานที่หย่อนใจของชาวเมือง จากจุดนี้สามารถเก็บภาพของเมืองเก่าได้ทั้งเมืองและอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดที่สวยที่สุดที่จะเห็นภาพซูริก สำหรับผู้ที่มาเยือนซูริก การได้มาเดินเล่นชมเมือง เก็บบรรยากาศที่นี่จะทำให้เหมือนเวลาอยู่หยุดไว้ที่ความสุขสงบที่สุดของเมือง นี่คือเหตุผลว่าทำไมที่นี่จึงเป็นที่นิยมสำหรับชาวซูริกเอง
ลงมาจากเนินลินเดนฮอล์ฟ ข้ามแม่น้ำไปก็จะเข้าสู่เขตเมืองเก่า เพื่อการเสพบรรยากาศที่ดีที่สุดแนะนำว่าให้เดินไปเรื่อย ๆ ตามที่ต้องการ ผ่านถนนนีเดอร์ดอร์ฟ (Niederdorf) ที่สองข้างทางเป็นร้านอาหาร, คาเฟ่ และร้านขายสินค้าที่ตกแต่งอย่างดี เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ก็จะเปลี่ยนบรรยากาศไปเป็นค่ำคืนแห่งแสงสีด้วยบาร์เล็กใหญ่ที่เรียงรายซ่อนตัวจากสายตาในช่วงกลางวัน เดินเรื่อยผ่านไปถึงศาลาเทศบาลเมือง (Town Hall) ติด ๆ กันคือย่านร้านอาหารและคาเฟ่ริมน้ำ ลิมมัทคีย์ (Limmatquai) ร้านเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ในอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคศตวรรษ 18-19 ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารแบบโฮมเมด เส้นทางเหล่านี้ท่านก็จะได้ผ่านเห็นโบสถ์ประจำเมืองซูริก กรอสมุนสเตอร์ (Grossmünster )เช่นกัน
ถนนหลักของเมืองซูริก เป็นถนนที่มีผู้คนเดินขวั่กไขว่ไปมาเกือบตลอดเวลา เริ่มต้นจากสถานีรถไฟหลัก (Bahnhof) ยาวไปจนถึงริมทะเลสาบ ถนนเส้นความยาว 1.2 ก.ม. นี้จัดเป็นถนนช็อปปิ้งที่น่าเดินที่สุดเส้นหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว ทุก ๆ ระยะ จะเจอน้ำพุ, การจัดแสดงงานศิลปะ, แน่นอนพร้อมห้างใหญ่และร้านค้ามีระดับ สลับกันไปกันแนวต้นไม้ และอาคารที่งดงามโดดเด่นในงานสถาปัตยกรรม สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าชั้นดี เครื่องประดับชั้นเลิศ และของราคาสูงมากมาย สำหรับผู้ไม่นิยมการจับจ่ายก็ยังอดไม่ได้ที่จะไปเดินเสพบรรยากาศและสำรวจความงดงามแปลกตาของอาคาร เช่น อาคารบางแห่งถูสร้างไว้ให้มีรูปหัวกระโหลกอยู่ในประตูเหล็กเป็นต้น บนถนนเส้นนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์นาฬิกา อันเป็นที่จัดแสดงคอลเล็คชั่นของนาฬิกาแบบต่าง ๆ จำนวนกว่า 300 ชิ้นหายาก
ในการเดินทางตรงมายังเมืองซูริก จากประเทศไทย มีหลากหลายสายการบินให้เลือกมากมายนัก CheapTickets.co.th จะช่วยร่นเวลาทั้งในการเลือกตั๋วเครื่องบินของหลากหลายสายการบินให้ตรงใจคุณมากที่สุด ในราคาที่คุ้มที่สุด และสามารถช่วงจัดการการจองทั้งที่พัก, รถเช่า, และประกันการเดินทาง ให้ได้ครบจบภายในครั้งเดียว ลองคลิ้กกับ CheapTickets.co.th เข้ามาดูแล้วจะรู้ว่าบริการของเราครบครันเพียงไร