สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในยูเครน

ยูเครนเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสถาบัตยกรรมที่สวยงาม มีความเป็นยุโรปค่อนข้างมาก ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งกำเนิดของชนชาติสลาฟ บรรพบุรุษของชาวยูเคยและรัสเชีย ยูเครนจึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเยี่ยมชม

สวนโบตานิค (Central Botanical Garden)

สวนโบตานิคอยู่ในความดูแลของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งยูเครน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1936 เป็นสวนที่รวมดอกไม้ทั้งกุหลาบ ไลแลค แมกโนเลีย และพันธุ์พืชจากทั่วโลกกว่าหมื่นชนิด ต่อมาภายหลังสวนนี้มีการสร้างเรือนกระจกเพื่อปลูกพืชที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเป็นพิเศษ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมความสวยงาม

มหาวิหารเซนต์โซเฟีย (Saint Sophia)

มหาวิหารเซนต์โซเฟียเป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ชาวยูเครนถือว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของประเทศ ภายในฝังพระศพของกษัตริย์ที่ปกครองดินแดน Kievan Rus มหาวิหารนี้ได้สร้างขึ้นใน ปี ค.ศ. 1037 ด้านนอกเป็นหลังคาโดมจำนวนมากถึง 13 โดม ด้านในตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกหลากสี และมีจิตรกรรมที่สวยงาม

จัตุรัส Jaturus mykhailivska

เป็นจัตุรัสที่สวยงามคลาสสิคที่สุดของกรุงเคียฟ เป็นที่ตั้งอาคารรัฐสภายูเครน ซึ่งสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1936 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทำลายลงและได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1946 นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์แห่งมิตรภาพของรัสเซียและยูเครน สร้างด้วยหินแกรนิตโค้งเป็นรูปครึ่งวงกลมอย่าง สวยงามและเป็นอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

พระราชวังลิวาเดีย (Livadia Palace)

เป็นพระราชวังของพระเจ้าซาร์รัสเซีย เคยใช้ในการเป็นสถานที่แปรพระราชฐานของพระเจ้าซาร์เมื่อเสด็จมายังแหลมไครเมีย และเป็นสถานที่ประชุมผู้นำระดับโลก พระราชวังแห่งนี้ได้เปิดให้เข้าชมเมื่อปี 1974 ประกอบด้วยอาคาร 60 หลัง มีความงดงามของพระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นด้วยศิลปะ สไตล์ อิตาเลียน – เรอเนซองซ์ ที่ดูเรียบง่ายแต่คลาสสิค

พระราชวังโวรอนซอฟ (Vorontsov’s Palace)

เป็นพระราชวังที่ถูกดำริให้สร้างในปี ค.ศ. 1828 โดย Mikhail Vorontsov มีพื้นที่ทั้งหมด 40 เฮกเตอร์ มีห้องต่าง ๆ ที่อยู่ในพระราชวังถึง 150 ห้อง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าตกแต่งได้อย่างสวยงามที่สุดในประเทศยูเครน เคยถูกใช้เป็นที่รับรองบุคคลสำคัญ สไตล์ในการตกตแต่งห้องเกิดจากการผสมผสานสถาปัตยกรรมอังกฤษและตะวันออกได้อย่างลงตัว