ซื้อตั๋วรถไฟเที่ยวโอซาก้ายังไงดี? ให้ทริปนี้จ่ายสบาย เดินทางง่ายสุดๆ
โอซาก้า มหานครที่มีชื่อเสียงทางเศษฐกิจและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่หลายๆ คนอาจรู้จักหรือคุ้นชื่อกันดี ซึ่งในรอบปี 2016-2017 ที่ผ่านมานั้น โอซาก้ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 24% สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก! ด้วยระบบคมนาคมที่ครอบคลุม มีทำเลที่ใกล้ชิดกับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างเกียวโต โกเบ นาระ และฮิเมจิ ทำให้โอซาก้าเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคไปโดยปริยาย และแน่นอนว่าเมื่อเราพูดถึงประเทศญี่ปุ่น ระบบการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว (และถูก) ที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น รถไฟ ซึ่งเราขอบอกเลยว่า การใช้รถไฟในโอซาก้านั้น ไม่ยากและไม่ซับซ้อน มีตั๋วเหมาให้เลือกหลายแบบ แถมไปได้ทั่วทุกที่ด้วยนะ!
ทำความรู้จักกับรถไฟ JR
รถฟ JR เป็นโครงข่ายผู้ให้บริการรถไฟที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น โดยในภูมิภาคคันไซซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโอซาก้านี้ ก็มี JR-West เป็นผู้ดูแลระบบรถไฟของภูมิภาค ครอบคลุมทั้งในมหานครโอซาก้า และเชื่อมต่อถึงเมืองอื่นๆ โดยรอบ ทั้งยังเป็นผู้ให้บริการรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น (Shinkansen) อีกด้วย และถ้าคุณต้องการท่องเที่ยวแบบไม่จำกัดเฉพาะในตัวเมือง รถไฟ JR ก็จะเป็นระบบรถไฟที่คุณต้องได้ใช้บริการในทริปนี้ “หลายรอบ” อย่างแน่นอนเลยล่ะ
แผนที่รถไฟ JR ในภูมิภาค
ขอบคุณภาพประกอบจาก: JR-West
เส้นทางรถไฟของโอซาก้านั้นซับซ้อนน้อยกว่าโตเกียว แต่ก็นับได้ว่าครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคแล้ว โดยแผนที่คุณจะเห็นทั้งเส้นทางรถไฟสาย A จากเกียวโต ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ลากผ่านตัวเมืองโอซาก้าไปทางตะวันตกซึ่งผ่านโกเบและฮิเมจิ แล้วถ้าจะไปนาระก็ไปสาย Q ทางตะวันออก อยากลงใต้ไปท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกับเมืองวาคายามะก็ใช้สาย R เป็นต้น และมีเส้นทางรถไฟชินคันเซ็นผ่านอีกด้วย แต่ถ้าคุณจะเดินทางในเมืองโอซาก้าต้องสายนี้เลย Osaka Loop Line หรือสาย O ซึ่งวนรอบเมือง (สังเกตสายสีแดงกลางแผนที่) และนับเป็นหัวใจหลักของโอซาก้าเลยทีเดียว โดยมีสถานีโอซาก้าทางทิศเหนือ และสถานีเท็นโนจิทางทิศใต้ เป็นชุมทางรถไฟหลักของเมืองนี้
ระบบการเดินรถของรถไฟ JR
สิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ JR ในโอซาก้าคือ เส้นทาง Osaka Loop Line นั้นไม่ได้มีเพียงแค่รถไฟสาย O ที่วิ่ง แต่จะมีรถไฟสายอื่นๆ วิ่งร่วมอยู่ด้วยอาทิเช่น Airport Rapid Service ที่วิ่งไปสนามบิน และยังมีขบวน Rapid Service ที่แวะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆ หรือมีบางสถานีที่มีรถจากสายอื่นวิ่งร่วมทางเดียวกันด้วย ดังนั้นก่อนยืนรอรถไฟขบวนต่อไปเราขอแนะนำให้คุณสังเกตป้ายวิ่งบนชานชลาและสัญลักษณ์บนพื้น เพื่อทราบว่าขบวนที่คุณต้องการไปจะเทียบชานชลาจุดไหน และบางทีอาจมีขบวนที่พาคุณไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่าเดิมโดยไม่จำเป็นต้องรอสาย O เสมอไป!
ทำความรู้จักกับรถไฟ Subway
เช่นเดียวกันกับเมืองหลวง ในเมืองโอซาก้าก็มีทั้งรถไฟ JR และรถไฟ Subway ที่ดำเนินการโดยเอกชน โดยปัจจุบันในโอซาก้ามี Subway บริการอยู่ 9 สาย ซึ่งใช้ตั๋วร่วมกันได้ทั้งระบบ แต่ใช้ตั๋วกับ JR ไม่ได้ ทำหน้าที่วิ่งเป็นจุดตัดทั่วทั้งเมืองและวิ่งในพื้นที่ที่รถไฟ JR ไม่มีให้บริการอาทิเช่นเส้นทางเลียบอ่าวโอซาก้า โดยข้อสังเกตหนึ่งของรถไฟ Subway ในโอซาก้าคือส่วนใหญ่จะวิ่งใต้ดิน แต่ก็จะมีบางส่วนที่วิ่งลอยฟ้าด้วย ซึ่งรถไฟ Subway จะเหมาะกับคนที่เน้นการเที่ยวเฉพาะในตัวเมืองโอซาก้าเป็นหลัก
แผนที่รถไฟ Subway ในโอซาก้า
ขอบคุณภาพประกอบจาก: JR-West
จากแผนที่คุณจะเห็นได้ว่ารถไฟ Subway ของโอซาก้าส่วนใหญ่จะตัดกันเป็นตาราง โดยเฉพาะในเขตเส้นทางรถไฟ JR Osaka Loop Line ทำให้รถไฟใต้ดินนั้นเปรียบเสมือนทางลัดในการเดินทางผ่าเมืองและซอกแซกไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ครอบคลุมกว่ารถไฟ JR และไม่ไปห่างจากตัวเมืองมากนัก โดยรถไฟ Subway จะมีชุมทางใหญ่อยู่ที่สถานีนัมบะ (โดทงบุริ-ป้ายกุลิโกะ) สถานีอูเมดะ (โอซาก้า) และสถานีเท็นโนจิ ซึ่งแต่ละสายก็จะมีสีและตัวอักษรย่อที่แตกต่างกันเพื่อความง่ายในการจดจำ อาทิเช่นสถานีโอซากาโกะ C11 ของสายสีเขียว (Chuo Line) คือสถานีใกล้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง
ทำความรู้จักกับรถไฟ Nankai
สำหรับรถไฟ Nankai นั้นเป็นหนึ่งใน “รถไฟสายอื่นๆ” ของโอซาก้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับรถไฟ JR และไม่เกี่ยวกับ Subway ด้วย คุณจึงใช้รถไฟ Nankai พร้อมกับระบบรถไฟอื่นๆ ด้วยตั๋วใบเดียวกันไม่ได้ แต่ที่เราต้องแนะนำรถไฟ Nankai ให้คุณรู้จักด้วยนั้นก็เพราะรถไฟสายนี้คือ 1 ใน 2 ระบบรถไฟที่เชื่อมต่อระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติคันไซกับตัวเมืองโอซาก้าที่คุณอาจต้องใช้เดินทางไป-กลับจากสนามบิน โดยมีปลายทางอยู่ที่สถานีนัมบะเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟ Subway และสถานีชินอิมามิยะเพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟ JR Osaka Loop Line ซึ่งรถไฟ Nankai จะมีทั้งขบวนท้องถิ่นและขบวนด่วนที่มีเวลาในการเข้าเมืองโดยเฉลี่ยค่อนข้างเร็วกว่ารถไฟ JR ที่เดินทางมาจากสนามบิน
ซื้อตั๋วรถไฟในโอซาก้าอย่างไร?
ความกังวลหนึ่งของหลายๆ คนในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองโดยรถไฟนั่นก็คือ “กลัวซื้อตั๋วไม่ถูก?” แต่การซื้อตั๋วรถไฟทุกระบบในโอซาก้านั้นม่ใช่เรื่องยากเลย และมีลักษณะเหมือนกันคือเดินทางโดยตั๋วกระดาษใบจิ๋ว (ไม่ใช่เหรียญหรือการ์ดอ่อนแบบรถไฟฟ้าบ้านเรา) และตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติยังมี เมนูภาษาอังกฤษ ให้บริการ ซึ่งบางสายมีการอัพเดตเมนูภาษาไทยให้บ้างแล้วด้วย โดยตั๋วรถไฟในโอซาก้าก็มีทั้งตั๋วรายเที่ยว และตั๋วแบบเติมเงิน
ตั๋วรถไฟรายเที่ยว
คุณสามารถซื้อตั๋วได้ง่ายๆ เพียงไปที่ตู้จำหน่ายตั๋ว และค้นหาสถานีที่ต้องการ หรือกดเลือกจำนวนเงินที่จะจ่ายหากรู้ราคาค่าเดินทางแล้ว แล้วจ่ายด้วยธนบัตรหรือเหรียญก็ได้ ตั๋วก็จะปล่อยกระดาษใบเล็กๆ ที่มีแถบแม่เหล็กด้านหลังมาให้สำหรับสอดเข้าและออกจากสถานีเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
บัตรโดยสารแบบเติมเงิน
ในโอซาก้านั้นคุณสามารถใช้บัตรโดยสารแบบเติมเงิน ICOCA สำหรับรถไฟ JR และบัตร Pitapa สำหรับรถไฟ Subway ของโอซาก้าได้ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการต่อคิวซื้อตั๋วหรือต้องการความสะดวกในการเข้าออกจากสถานีได้อย่างรวดเร็ว และเป็นที่นิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่น แต่สำหรับนัก่องเที่ยวอย่างเรานั้นมันอาจไม่ใช่บัตรที่เหมาะกับการเดินทางเท่าไหร่นัก เพราะบัตรโดยสารแบบเติมงั้นจะไม่มีโปรโมชั่นในการเดินทางและให้ความคุ้มค่าได้เหมือน “บัตรเหมา” ที่เรากำลังจะพูถึงในลำดับต่อไปนี้เลย
ตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่ายในโอซาก้า
สื่งที่ขาดไม่ได้สำหรับแบ็คแพ็คเกอร์ที่เน้นการเดินทางให้คุ้มค่าที่สุดนั่นก็คือการใช้ บัตรโดยสารแบบเหมาจ่าย หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า Pass เพื่อเดินทางกับรถไฟสายต่างๆ ได้ไม่จำกัดภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งจะทำให้คุณประหยัดค่าโดยสารรถไฟได้อีกมากและไม่ต้องประสบปัญหากับการต่อคิวซื้อตั๋วที่ตู้จำหน่ายด้วย และแน่นอนว่า Pass มีให้เลือกทั้งของรถไฟ JR และ Subway โดยต้องขอบอกก่อนว่าทั้ง 2 เจ้านี้ไม่มี Pass ที่ใช้งานร่วมกันได้นะจ๊ะ ดังนั้นวางแผนการเที่ยวดีๆ แล้วจะช่วยให้คุณเลือกได้ว่าควรซื้อ Pass ไหนกับใครดี!
Pass ของรถไฟ Subway
- บัตร Osaka Amazing Pass เป็น Pass ที่มีให้เลือก 2 แบบ คือ 1 วัน 2,500 เยน และต่อเนื่อง 2 วัน 3,300 เยน ซึ่งใช้กับรถไฟ Subway รถโดยสารสาธารณะ และเรือโดยสารได้ไม่จำกัด และยังให้สิทธิพิเศษในการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง 35 แห่งได้ฟรีอีกด้วย จึงเป็นบัตรที่เหมาะที่สุดสำหรับคนที่อยากเที่ยวในตัวเมืองโอซาก้าเน้นๆ
- บัตร Enjoy Eco Card หรือบัตร Osaka One-Day Pass มีให้เลือก 2 แบบ คือ 1 วันธรรมดา 800 เยน และ 1 วันหยุด 600 เยน ซึ่งใช้กับรถไฟ Subway และรถโดยสารสาธารณะได้ไม่จำกัด และมีส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นบางแห่ง อารมณ์คล้ายกับบัตร Osaka Amazing Pass แต่เน้นเดินทางอย่างเดียวและมีราคาถูกกว่ามาก
- บัตร Osaka Kaiyu Ticket เป็น Pass แบบ 1 วัน 2,550 เยน ซึ่งดูเหมือนแพง แต่บัตรนี้ได้รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) สุดอลังการไว้ให้แล้ว และสามารถใช้รถไฟ Subway กับรถโดยสารสาธารณะได้ฟรีตลอดทั้งวัน พร้อมส่วนลดการท่องเที่ยวรอบอ่าวโอซาก้าอีกเพียบ
- บัตร Kansai Thru Pass เป็น Pass ที่มีให้เลือก 2 แบบคือต่อเนื่อง 2 วัน และ 4,000 เยน และต่อเนื่อง 3 วัน 5,200 เยน สามารถใช้รถไฟ Subway และรถโดยสารสาธารณะได้ไม่จำกัดเฉพาะแค่ในโอซาก้า แต่ยังใช้กับรถไฟในเกียวโต นาระ โกเบ ฮิเมจิ และวาคายามะได้ด้วย
ซื้อ Pass ได้ที่ไหนบ้าง? คุณสามารถซื้อบัตรเหมาเหล่านี้ได้จากศูนย์บริการท่องเที่ยวและสถานีรถไฟ Subway ขนาดใหญ่ทุกแห่ง รวมทั้งโรงแรมบางแห่งก็มี Pass เหล่านี้เตรียมให้นักท่องเที่ยวด้วย แม้แต่บนรถโดยสารธารณะก็มี Pass บางแบบขายให้คุณก่อนชำระค่าโดยสารด้วยนะ!
Pass ของรถไฟ JR
- บัตร Kansai Area Pass เป็น Pass ที่มีจำนวนวันให้เลือกตั้งแต่ 1-4 วันในราคา 2,200-6,300 เยน ซึ่งเป็นตั๋วเหมาเริ่มต้นของ JR-West ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งโอซาก้า, เกียวโต, โกเบ, นาระ ไปจนถึงวาคายามะ และสามารถใช้รถไฟ Kansai Airport Express ของฝั่ง JR จากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองได้ในราคาประหยัดสุด
- บัตร Kansai Wide Area Pass เป็น Pass แบบ 5 วัน 9,000 เยน ที่ขยายข้อจำกัดในการเดินทางจากบัตร Kansai Area Pass ให้กว้างขึ้นจนครอบคลุมทั้งภูมิภาค โดยสามารถเดินทางไปถึงฮิเมจิและโอกายามะทางตะวันตก และเป็น Pass เริ่มต้นที่สามารถใช้รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นฟรีระหว่างโอซาก้าถึงโอกายามะได้แบบไม่จำกัดด้วย!
- บัตรระยะไกลประเภทอื่นๆ นอกจาก Pass ที่เราแนะนำไปข้างต้นแล้ว JR-West ยังมีบัตรเหมาแบบอื่นๆ ที่จะพาคุณไปได้ไกลขึ้นและให้เวลามากขึ้นอีกอาทิเช่น บัตร Kansai - Hiroshima Area Pass ที่พาคุณไปถึงเมืองฮิโรชิม่าที่มีชื่อเสียง และบัตร Sanyo - San'in Area Pass ที่ไปไกลถึงฮากะตะซึ่งติดกับเมืองฟุกุโอกะบนเกาะคิวชู และให้เวลามากถึง 7 วัน (แต่ก็มีราคาแพงที่สุดถึง 19,000 เยนเลยทีเดียว)
ซื้อ Pass ได้ที่ไหนบ้าง? สำหรับทุก Pass ของรถไฟ JR นั้นคุณสามารถซื้อได้จากตั๋วแทนจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งมีราคาถูกกว่าซื้อหน้าสถานีหลักร้อยบาทเลยทีเดียว โดยการซื้อบัตรเหมาในไทยนั้นคุณจะได้บัตรที่ต้องนำไปใช้แลกที่ศูนย์การท่องเที่ยวในสถานีใหญ่ๆ อย่างโอซาก้าอีกครั้ง จึงจะสามารถเข้าสู่ระบบรถไฟได้ตามวันที่ระบุไว้ และหากใช้บัตร Kansai Wide Area Pass ขึ้นไปคุณก็สามารถใช้บริการตู้ Non-Reserved ของชินคันเซ็นสาย SANYO ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ส่งท้าย
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้รถไฟในโอซาก้าที่คุณเองก็สามารถจัดกระเป่าเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายๆ แบบไร้กังวล แถมยังประหยัดเงินได้อีกหากเลือกใช้ Pass เดินทางที่เหมาะสมกับทริปของคุณ หรือต่อให้จำเป็นต้องเปลี่ยนระบบรถไฟโดยไม่มี Pass คุณก็ยังสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่น แล้วมาทำให้ทริปของคุณคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิมด้วยตั๋วเครื่องบินถูกไปโอซาก้า รับรองเลยว่ากระเป๋าตังค์ของคุณไม่มีฟีบแน่!